ชีวประวัติ สืบ นาคะเสถียร
คุณสืบ นาคะเสถียร หรือนามเดิม สืบยศ
เป็นชาวอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒
ที่ตำบลท่างาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
บิดาชื่อ นายสลับ นาคะเสถียร อดีต
ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี
มารดาชื่อ นางบุญเยี่ยม นาคะเสถียร มีพี่น้อง
ทั้งหมด ๓ คน โดยคุณสืบ เป็นบุตรชายคนโต
น้องชาย และน้องสาวอีก ๒ คน คือ
คุณกอบกิจ นาคะเสถียร และคุณกัลยา รักษาสิริกุล
คุณสืบมีบุตรสาว ๑ คน ชื่อนางสาวชินรัตน์ นาคะเสถียร
ปัจจุบันอายุ ๒๔ ปี (พ.ศ.๒๕๔๔)
ชีวิตและการทำงาน
โดยที่สายตระกูลของคุณสืบ นาคะเสถียร เป็นครอบครัวของชาวนา ชีวิตในช่วงปฐมวัยจึงต้องช่วยทำงานในนาของมารดา เมื่อว่างจากภาระดังกล่าวก็ออกท่องเที่ยวกับเพื่อน ๆ โดยมีไม้ง่ามหนังสะติ๊กคู่ใจ
ได้เข้าเรียนชั้นประถมต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัดปราจีนบุรี ช่วงปิดเทอมว่างจากการเรียน ก็จะออกไปช่วยทางบ้านเสริมแนวคันนา เพื่อไม่ให้มีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน ทำงานกลางแจ้งทั้งวัน แม้แดดจะร้อนก็มิเคยปริปากบ่น ครั้นเรียนจบชั้นประถม ๔ ต้องจากครอบครัวไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ในสมัยนั้น คุณสืบ มีบุคลิกประจำตัวคือ เมื่อสนใจหรือตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำจริงจัง จนประสบความสำเร็จ และเป็นผู้ที่มีผลการเรียนดีมาโดยตลอด
๒๕๑๑-๒๕๑๔ เข้าศึกษาในคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความตั้งใจการศึกษาอย่างเต็ม ประสิทธิภาพ และเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตในมหาวิทยาลัย โดยเป็นที่ทราบกันดีระหว่าง หมู่เพื่อนผู้ใกล้ชิดว่า คุณสืบ เป็นผู้มีจิตใจรักงานศิลปะ สูงส่งในเชิงมนุษยสัมพันธ์ มีระเบียบ ในการดำเนินชีวิตในสมัยเรียนอย่างเป็นแบบแผน
๒๕๑๖ เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ได้เข้าทำงานที่กองสวนสาธารณะของการเคหะแห่งชาติ
๒๕๑๗ เข้าศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาวนวัฒน์วิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนสำเร็จการศึกษา
เป็นชาวอำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
เกิดเมื่อวันเสาร์ที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๙๒
ที่ตำบลท่างาม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี
บิดาชื่อ นายสลับ นาคะเสถียร อดีต
ผู้ว่าราชการ จังหวัดปราจีนบุรี
มารดาชื่อ นางบุญเยี่ยม นาคะเสถียร มีพี่น้อง
ทั้งหมด ๓ คน โดยคุณสืบ เป็นบุตรชายคนโต
น้องชาย และน้องสาวอีก ๒ คน คือ
คุณกอบกิจ นาคะเสถียร และคุณกัลยา รักษาสิริกุล
คุณสืบมีบุตรสาว ๑ คน ชื่อนางสาวชินรัตน์ นาคะเสถียร
ปัจจุบันอายุ ๒๔ ปี (พ.ศ.๒๕๔๔)
ชีวิตและการทำงาน
โดยที่สายตระกูลของคุณสืบ นาคะเสถียร เป็นครอบครัวของชาวนา ชีวิตในช่วงปฐมวัยจึงต้องช่วยทำงานในนาของมารดา เมื่อว่างจากภาระดังกล่าวก็ออกท่องเที่ยวกับเพื่อน ๆ โดยมีไม้ง่ามหนังสะติ๊กคู่ใจ
ได้เข้าเรียนชั้นประถมต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัดปราจีนบุรี ช่วงปิดเทอมว่างจากการเรียน ก็จะออกไปช่วยทางบ้านเสริมแนวคันนา เพื่อไม่ให้มีข้อพิพาทกับเพื่อนบ้าน ทำงานกลางแจ้งทั้งวัน แม้แดดจะร้อนก็มิเคยปริปากบ่น ครั้นเรียนจบชั้นประถม ๔ ต้องจากครอบครัวไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์หลุยส์ จังหวัดฉะเชิงเทรา จนกระทั่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ในสมัยนั้น คุณสืบ มีบุคลิกประจำตัวคือ เมื่อสนใจหรือตั้งใจจะทำอะไรแล้วก็จะมีความมุ่งมั่นตั้งใจทำจริงจัง จนประสบความสำเร็จ และเป็นผู้ที่มีผลการเรียนดีมาโดยตลอด
๒๕๑๑-๒๕๑๔ เข้าศึกษาในคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีความตั้งใจการศึกษาอย่างเต็ม ประสิทธิภาพ และเข้าร่วมกิจกรรมของนิสิตในมหาวิทยาลัย โดยเป็นที่ทราบกันดีระหว่าง หมู่เพื่อนผู้ใกล้ชิดว่า คุณสืบ เป็นผู้มีจิตใจรักงานศิลปะ สูงส่งในเชิงมนุษยสัมพันธ์ มีระเบียบ ในการดำเนินชีวิตในสมัยเรียนอย่างเป็นแบบแผน
๒๕๑๖ เมื่อจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แล้ว ได้เข้าทำงานที่กองสวนสาธารณะของการเคหะแห่งชาติ
๒๕๑๗ เข้าศึกษาระดับปริญญาโท สาขาวิชาวนวัฒน์วิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จนสำเร็จการศึกษา
๒๕๑๘ บรรจุเข้ารับราชการ ตำแหน่ง พนักงานป่าไม้ตรี กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว - เขาชมภู่ จังหวัดชลบุรี ปราบปรามจับกุมผู้บุกรุกทำลายป่าอย่างมีประสิทธิภาพ
๒๕๒๒ ได้รับทุนจาก British Council ไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในสาขาวิชาอนุรักษ์วิทยา
๒๕๒๒ ได้รับทุนจาก British Council ไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในสาขาวิชาอนุรักษ์วิทยา
๒๕๒๔ เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบางพระ มีส่วนร่วมในการจัดการและประสานงาน รวมทั้งเป็นวิทยากรฝึกอบรมพนักงานพิทักษ์ป่าอีกหลายรุ่น
๒๕๒๖ กลับเข้าปฏิบัติราชการประจำ ฝ่ายวิชาการ กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้
๒๕๒๙ ปฏิบัติงานในหน้าที่หัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าตกค้างในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อน รัชชประภา(เชี่ยวหลาน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๒๕๓๐ ปฏิบัติงานในโครงการศึกษาผลกระทบสภาพแวดล้อม เพื่อพัฒนาพื้นที่ ป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส ต่อมาได้รับคำสั่งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกตำแหน่งหนึ่ง เป็นอาจารย์พิเศษ ประจำภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดเตรียมเอกสารข้อมูลทางด้านบทความและภาพถ่าย ทุ่มเทพลังกาย พลังใจ เพื่อคัดค้าน การสร้างเขื่อนน้ำโจนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและการบุกรุกทำลาย ทรัพยากร ธรรมชาติทุกรูปแบบ
๒๕๓๑ กลับมาปฏิบัติราชการที่ กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้
๒๕๓๒ เข้ารับตำแหน่ง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี
๒๕๓๓ จัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาป่าห้วยขาแข้ง และทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นวิทยากรบรรยาย และร่วมอภิปรายในโอกาส และสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง ส่วนมากเป็นหัวข้อเรื่อง “ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและปัญหาที่เกี่ยวข้อง ” “ การอพยพสัตว์ป่าตกค้างในเขื่อนเชี่ยวหลาน ” เป็นต้น เขียนเอกสาร โครงงานเพื่อจัดการให้พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่มรดกทางธรรมชาติของโลก
๒๕๒๖ กลับเข้าปฏิบัติราชการประจำ ฝ่ายวิชาการ กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้
๒๕๒๙ ปฏิบัติงานในหน้าที่หัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าตกค้างในพื้นที่อ่างเก็บน้ำเขื่อน รัชชประภา(เชี่ยวหลาน) จังหวัดสุราษฎร์ธานี
๒๕๓๐ ปฏิบัติงานในโครงการศึกษาผลกระทบสภาพแวดล้อม เพื่อพัฒนาพื้นที่ ป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส ต่อมาได้รับคำสั่งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี อีกตำแหน่งหนึ่ง เป็นอาจารย์พิเศษ ประจำภาควิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดเตรียมเอกสารข้อมูลทางด้านบทความและภาพถ่าย ทุ่มเทพลังกาย พลังใจ เพื่อคัดค้าน การสร้างเขื่อนน้ำโจนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและการบุกรุกทำลาย ทรัพยากร ธรรมชาติทุกรูปแบบ
๒๕๓๑ กลับมาปฏิบัติราชการที่ กองอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้
๒๕๓๒ เข้ารับตำแหน่ง หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จังหวัดอุทัยธานี
๒๕๓๓ จัดตั้งกองทุนเพื่อรักษาป่าห้วยขาแข้ง และทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นวิทยากรบรรยาย และร่วมอภิปรายในโอกาส และสถานที่ต่าง ๆ หลายแห่ง ส่วนมากเป็นหัวข้อเรื่อง “ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและปัญหาที่เกี่ยวข้อง ” “ การอพยพสัตว์ป่าตกค้างในเขื่อนเชี่ยวหลาน ” เป็นต้น เขียนเอกสาร โครงงานเพื่อจัดการให้พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เป็นพื้นที่มรดกทางธรรมชาติของโลก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น